วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

"เครื่องดื่มเสริมหล่อ" สุดแรง!! กระทิงแดงส่ง "แมนซั่ม" เข้าชิง


การเปิดตัวเครื่องดื่ม "แมนซั่ม"(MANSOME) ของค่ายกระทิงแดง ที่มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาไปเมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นการ "เซ็กเมนเตชั่น" อย่างชัดเจนในกลุ่มเครื่องดื่มในตลาดฟังก์ชั่นนอลดริงก์ 
เหมือนกับที่ฝั่งของผู้หญิงจะมี "บิวติ ดริ้งค์" จากค่ายทรัพย์อนันต์ และ "บีอิ้ง" จากสิงห์ ทำตลาดอยู่ก่อนหน้านี้

เป็นตลาดเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่นในขวดเพ็ตราคา 20 บาท ที่ไม่ใช่ชูกำลังหรือเกลือแร่ ซึ่งเจาะกลุ่มผู้ชายเช่นเดียวกันอย่างที่เคยเป็นมา และเป็น 2 แคทิกอรี่หลักของกระทิงแดงมาโดยตลอด

ก่อนหน้านี้ กระทิงแดงเครื่องดื่มที่พุ่งเป้าสื่อสารไปยังกลุ่มผู้ชายอย่าง "เรดดี้ บู้ท" ที่ใช้สโลแกนว่า "ปลุกความเป็นชายในตัวคุณ" โดยมี "ชาคริต แย้มนาม" เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งยังเดินหน้าทำตลาดอย่างเข้มข้น แต่สินค้าตัวนี้ก็ยังออกแนวเครื่องดื่มชูกำลังซึ่งเป็นงานถนัดของกระทิงแดง 

แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่ม เปิดเผยว่า เมื่อหลายปีก่อนกระทิงแดงเคยเปิดตัวน้ำส้มภายใต้แบรนด์ "ฟรุ้ต ฟิต ฟอร์ ฟัน" แต่อยู่ในตลาดได้ไม่นานก็ถอนออกไป ซึ่งทำให้ไลน์บรรจุขวดอะเซปติกที่ใช้สำหรับน้ำส้มตัวนี้ว่างลง ซึ่งล่าสุดได้นำมาใช้กับไลน์ผลิต "แมนซั่ม" ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ตลาดเครื่องดื่มผู้ชายยังมีโอกาสมหาศาล และยังไม่มีใครเป็นผู้นำตลาดอย่างแท้จริง

สอบถามไปยัง "วรวิมล กรรมารางกูร" ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์ "สก๊อต คอลลาเจน-เอ็ม วิธ ซิงค์" จับกลุ่มเป้าหมายผู้ชายโดยเฉพาะ ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันผู้ชายหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น เริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ก่อนมาสู่กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่เข้ามาเจาะกลุ่มผู้ชายโดยเฉพาะ ทำให้ตลาดสินค้าผู้ชายเติบโตขึ้น

"ปัจจุบันเครื่องดื่มของผู้ชายส่วนใหญ่อยู่ในรูปของเครื่องดื่มรูปแบบชอต (shot) เข้มข้น ขณะที่เครื่องดื่มรูปแบบขวดเพ็ตที่เป็น RTD สำหรับผู้ชายยังมีในตลาดไม่มาก"

"วรวิมล" กล่าวอีกว่า ปัจจุบันยังมีการทำตลาด "คอลลาเจน-เอ็ม วิธ ซิงค์" ต่อเนื่อง สินค้ามีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก แต่ตลาดยังมีขนาดเล็กมาก เพราะเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่ม ไม่เหมือนตลาดรังนกและซุปไก่ที่เป็นแมส ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

"การทำตลาดเครื่องดื่มผู้ชายจึงต้องเลือกสื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง อาทิ ออนไลน์ จัดกิจกรรมร่วมกับฟิตเนส รวมถึงการเลือกใช้เมสเซจในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ชายที่ต้องการดูดี"

ด้าน "ชนินทร์ เทียนเจริญ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเบฟเวอเรจ จำกัด เจ้าของแบรนด์โสมสกัดสำหรับผู้ชาย "ซีแซด วิธ ซิงค์" (CZ with Zinc) ซึ่งปัจจุบันวางตลาดเป็นที่เรียบร้อยในร้านจิฟฟี่ ร้านค้าทั่วไป รวมถึงสถานบันเทิง ในราคา 15 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี ซึ่งอดีตผู้บริหารค่ายกระทิงแดงเชื่อว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ยิ่งกับเทรนด์เมืองนอกที่สินค้าประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างสูง ทำให้ผู้ชายไทยเริ่มมองหาเครื่องดื่มที่ตอบความต้องการของตัวเองมากขึ้น

"จริง ๆ ตลาดมีความต้องการสูง ที่ผ่านมามีแต่เครื่องดื่มที่เจาะผู้หญิงโดยเฉพาะ จะมีใกล้เคียงก็น้ำอัดลม เครื่องดื่มเกลือแร่ หรือชูกำลัง จะซื้อชาพร้อมดื่มบางครั้งยังดูไม่ค่อยแมนเลย"

สเต็ปจากนี้ ไอเบฟเวอเรจ ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องดื่มน้องใหม่ที่เน้นกลยุทธ์ "เซ็กเมนเตชั่น" คือเครื่องดื่มที่เจาะกลุ่มเฉพาะทั้งเด็ก ผู้หญิง และผู้ชาย กล่าวอีกว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอล ผู้ชายเข้ามาเสริมทัพอีกในปีหน้า ตัวแรกจะเป็นรูปแบบอาร์ทีดี ราคา 25 บาท เน้นขายในร้านสะดวกซื้อ โมเดิร์นเทรดต่าง ๆ

ต่อเนื่องด้วยรูปแบบ "ชอต" เข้มข้นที่เน้นคุณประโยชน์ที่ผู้ชายต้องการอย่างเจาะจง โดยตัวนี้จะมีราคาสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 60-80 บาท วางจำหน่ายทั้งร้านขายยา, ผับบาร์ และสถานบันเทิง

"เชื่อว่าปีหน้าตลาดจะแข่งขันรุนแรงอย่างมาก และจะมีผู้เล่นอีกหลายรายกระโดดเข้าสู่ตลาด"

โจทย์หลักขณะนี้ของเครื่องดื่มผู้ชายคือ การสื่อสารอย่างไรให้โดนใจผู้บริโภค

ที่สำคัญ สามารถเข้าใจในคุณประโยชน์ของตัวสินค้าที่บางอย่างก็ไม่สามารถพูดอย่างโจ่งแจ้งได้นั่นเอง


ที่มา ประชาชาิติธุรกิจ

วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2555

พิเรนทร์เล่นยิมหน้าผาพลาดเกือบดับ













วันนี้ (21 ต.ค.) รายงานในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลี่ เมล์ ของอังกฤษ ระบุว่า เกิดเหตุการณ์หวาดเสียวเฉียดตาย ระหว่างการถ่ายทำรายการทีวีท้านรก “นอร์เมิล แมดเนส” ที่ประเทศนอร์เวย์ ทางเหนือของยุโรป ซึ่งเป็นตอนเล่นยิมนาสติกโหนบาร์เดี่ยวริมหน้าผาสูงชัน ระดับความสูงประมาณ 1,200 เมตร โดยผู้เล่นโชว์คือ นายริชาร์ด เฮนริคเซ่น ชาวนอร์เวย์ พ่อของลูก 5 คน แต่ข่าวไม่ระบุอายุ สถานที่อยู่ เพียงแต่บอกอาชีพว่าเป็นศัลยแพทย์ ที่ชอบการโลกโผนผจญภัยเป็นงานอดิเรก
การถ่ายทำการโหนบาร์เดี่ยวของนายเฮนริคเซ่น ที่หน้าผาบนภูเขาแห่งหนึ่ง ทางภาคตะวันตกของประเทศ ดำเนินไปได้ไม่นานก็เกิดความผิดพลาด เมื่อเสาบาร์ข้างหนึ่งเกิดหัก และเฮนริคเซ่นเสียการทรงตัว ร่างกระเด็นลอยละลิ่วลงจากหน้าผาสู่ข้างล่าง ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของทีมงานถ่ายทำ นำโดย นายอาร์เด เซนเด โอเซน ผู้กำกับและตากล้องรายการทีวีชื่อดัง แต่ปรากฏว่า นายเฮนริคเซ่นสามารถลงถึงพื้นเหวข้างล่าง โดยไม่เสียชีวิต ด้วยความช่วยเหลือของร่มชูชีพที่ติดตัวเผื่อไว้
รายการ “นอร์เมิล แมดเนส” เป็นรายการทีวีแนวเสี่ยงตายท้านรก ที่ได้รับความนิยมและมีเรตติ้งสูงมากในนอร์เวย์ นายเฮนริคเซ่นเผยว่า เขาชอบฝึกฝนการกระโดดจากที่สูง แต่การพลาดในครั้งนี้เกือบเอาชีวิตไม่รอด ยังดีที่ประสบการณ์ทำให้เขาดีดตัวพ้นแนวหินระเกะระกะที่อยู่ตามหน้าผา และสามารถตั้งสติได้ กระตุกเชือกร่มชูชีพกางได้ทัน ก่อนลงถึงพื้นโดยปลอดภัย เขายังได้เปิดคลิปวิดีโอเหตุการณ์เฉียดตายนี้ดู พรอ้มกับลูกๆ ที่บ้านเป็นประจำด้วย.

ที่มา เดลินิวส์ 

วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ฮือฮา คนงานรอดตายปาฎิหารย์ หลังร่างถูกฝังอยู่ใต้ดินถล่ม-โผล่แค่ศีรษะ(ชมภาพ)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ว่า เกิดเหตุเหลือเชื่อ เหล่าพนักงานก่อสร้างของจีน ในเมืองจ้าวหยางในมณฑลหูหนาน ทางตอนใต้ของจีน ได้รับความช่วยเหลืออย่างรอดตายปาฎิหารย์ ภายหลังถูกฝังอยู่ใต้ดินถล่มในพื้นที่ก่อสร้าง โดยรายหนึ่งอยู่ในสภาพถูกฝังร่างเกือบทั้งตัวโผล่แค่ศีรษะ ก่อนได้รับความช่วยเหลือจนรอดชีวิต



รายงานระบุว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่วันหลังจากเกิดเหตุชายรายหนึ่งถุกแท่งเหล็กเจาะศีรษะในพื้นที่ก่อสร้างแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงซี โดยที่ผ่านมา จีนมีชื่อเสียงอื้อฉาวในเรื่องมาตรฐานหย่อนหยานในการก่อสร้าง และความเข้มงวดอย่างละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งกรณีโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ของจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนของไอโฟน ได้ติดลวดหนามเหล็กบนหน้าต่างโรงนอน หลังจากเกิดเหตุพนักงาน 14 รายก่อเหตุฆ่าตัวตาย ในโรงงานเมืองเซินเจิน ในปี 2010 และแม้ว่ารัฐบาลจีนจะอ้างว่า ทางการได้เพิ่มมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดการเสียชีวิตของพนักงานโรงงานแล้ว แต่เมื่อปีที่แล้ว พบว่ามีพนักงานจีนกว่า 750,000 คน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุระหว่างปฎิบัติงาน

   

ที่มา มติชน

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สาวผู้ดีป่วยประหลาด ถึงจุดสุดยอดพร่ำเพรื่อ 500 ครั้ง/วัน


 


สาวผู้ดีป่วยประหลาด ถึงจุดสุดยอดพร่ำเพรื่อ 500 ครั้ง/วัน โอดไม่ใช่เรื่องน่าหลงใหล แต่ส่งผลกระทบทุกด้านต่อชีวิต...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 15 ต.ค. ถึงอาการประหลาดของซารา ริชาร์ดสัน สาววัย 30 ปี จากเมืองบาซิงสโตค ประเทศอังกฤษ ซึ่งบอกไม่ถูกว่าควรจะเป็นเรื่องน่ายินดีหรือยินร้าย เพราะเธอสามารถสยิวกิ้วและถึงจุดสุดยอดได้มากถึง 500 ครั้ง/วัน เลยทีเดียว โดยอาการดังกล่าวเรียกว่า "โรคถึงสุดสุดยอดพร่ำเพรื่อ" Persistent Sexual Arousal Syndrome (PSAS) ถูกบรรจุในเอกสารทางการแพทย์ ครั้งแรกเมื่อปี 2001 

เธอเปิดใจว่า "คนทั่วไปอาจคิดว่าฉันได้เคลิบเคลิ้มไปกับอารมณ์ดังกล่าวทุกวัน แต่เปล่าเลยมันกลับทำให้ชีวิตฉันพังเสียมากกว่า ฉันไม่สามารถควบคุมความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับร่างกายฉันได้ และมันก็ส่งผลกระทบทุกด้านต่อชีวิตของฉัน อาการนี้มักเกิดขึ้นบ่อยๆ เวลาฉันเดินขึ้นบันได เดินผ่านประตูเหล็กกั้นทางเข้า เดินเข็นรถเข็นช็อปปิ้ง ขับรถด้วยความเร็ว โทรศัพท์มือถือสั่นในกระเป๋ากางเกง หรือแม้กระทั่งมีคนมานั่งข้างๆ บนโซฟาก็ตาม ฉันรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นตั้งแต่ตื่นยันเข้านอน ยิ่งนั่งรถไฟยิ่งเป็นฝันร้าย เพราะแรงสะเทือนของมันทำให้ฉันแทบคลั่ง แต่เมื่อฉันมีเซ็กซ์กับแฟน ฉันกลับไม่รู้สึกถึงจุดสุดยอดเลย ฉันเคยพยายามหยุดความรู้สึกแบบนั้น ด้วยการหันไปออกกำลังกาย นอนแช่น้ำอุ่นๆ ดูภาพยนตร์คลายเครียด แต่อาการเหล่านั้นก็ยังไม่เคยหายไปไหน"

ทั้งนี้ ริชาร์ดสัน เริ่มมีอาการเสียวซ่านเหนือการควบคุมตั้งแต่ปี 2010 หรือราว 2 ปีแล้ว กระทั่งทนรับสภาพต่อไปไม่ไหว จึงทำการสืบค้นในอินเทอร์เน็ต และเหมือนกับได้ยกภูเขาออกจากอก เมื่อพบว่ามีโรคดังกล่าวอยู่จริง และทราบแน่ชัดแล้วว่าไม่ได้รู้สึกถึงจุดสุดยอดพร่ำเพรื่อเช่นนี้เพียงคนเดียวในโลก เธอจึงเข้ารับการรักษากับทีมแพทย์ และตั้งปณิธานว่าจะศึกษาต่อและถ่ายทอดเรื่องราวให้สังคมหรือผู้ป่วยด้วยอาการเดียวกันเข้าใจต่อไป.

Photo : thesun.co.uk / DARREN FLETCHER

Photo : thesun.co.uk / DARREN FLETCHER

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วะวะว้าวว !!!! ประกวดจู๋เล็ก อึ้งมะ!!!

 ต่อไปนี้ท่านชายคนใดที่มีเจ้าโลกเล็ก ก็ไม่ต้องรู้สึกเขินอายอีกต่อไปแล้ว (หรือเปล่า) และท่านก็น่าจะแสดงตัวออกมาอย่างสง่าผ่าเผยได้อีกด้วย เมื่อล่าสุด มีเว็บไซต์เรื่องเกี่ยวกับทางเพศในเดนมาร์กทำการประกวดหาชายที่มีเจ้าโลกขนาดจิ๋วที่สุดในโลก ซึ่งผู้ชนะจะได้โทรศัพท์ไอโฟนไปครองเลยทีเดียว!


สำหรับผู้ที่จัดการประกวดสุดแหวกแนวในครั้งนี้ ได้แก่ มอร์เต่น ฟาบริซิอุส เจ้าของเว็บไซต์ "ซิงเกิ้ลเซ็กซ์ดอตดีเค" (Singlesex.dk) โดยกฎกติกานั้นก็ง่ายแสนง่าย ขอแค่คุณถ่ายภาพอวัยวะเพศของคุณในสภาพที่กำลังตั้งตรงดิ่งเต็มที่ พร้อมกับมีเทปวัดความยาวอยู่ข้างๆ แล้วส่งมาที่เว็บไซต์ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
 
สำหรับคนที่มีเจ้าโลกเล็กที่สุดก็จะได้ไอโฟนไปนอนกอดสมใจอยาก ส่วนอันดับ 2 กับ 3 จะได้ไอแพดไปครอบครอง ซึ่งหากท่านชายคนไหนอยากลงแข่งด้วยล่ะก็ ท่านก็ควรจะรีบๆ หน่อย เพราะคุณสามารถส่งรูปร่วมชิงชัยความเล็กได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม ปีหน้าเท่านั้น

 
ทั้งนี้ ฟาบริซิอุส บอกว่า ตนหวังว่ามุมมองสุดฮาและแปลกประหลาดของการแข่งนี้ จะช่วยให้ผู้คนได้เค้นอารมร์ขันออกมากันสักหน่อย รวมถึงทำให้พวกเขามีความกล้าที่จะโพสต์สิ่งที่เป็นของตัวเองด้วย "มีถึงหลายคนที่ไม่มีความสุขกับความเป็นชายของเขา เพราะเขาคิดว่าผู้ชายต้องมีเจ้าโลกที่ใหญ่ แต่การมีขนาดอย่างนั้นมันไม่ใช่เรื่องปกติหรอก" 

เศร้า! สาวถูกกดดัน ระบายความในใจผ่านคลิป ก่อนปลิดชีพตัวเอง





 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ nationalpost.com รายงานข่าว ตำรวจแคนาดาเร่งสอบสวนคดีที่เด็กสาววัย 15 ปี ฆ่าตัวตาย หลังจากถูกขู่แบล็กเมลจากคนร้ายที่ตามราวีเธอไม่หยุด แต่ก่อนตาย เธอได้ทำคลิปวิดีโอระบายความอัดอั้นตันใจและโพสต์ลงในยูทูบจนเป็นข่าวฮือฮาในโลกไซเบอร์ในขณะนี้
 
            โดยเด็กสาวคนดังกล่าวชื่อ อแมนด้า ทอดด์ อายุ 15 ปี อาศัยอยู่ในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ตำรวจพบศพเธอในบ้าน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างการสอบสวนขั้นแรกที่พุ่งเป้าไปยังครอบครัวของผู้ตายซึ่งไม่ทราบเลยว่า อแมนด้ากำลังมีปัญหาอะไรหรือไม่ ซึ่งตำรวจก็จะสืบสวนหาข้อมูลว่า เธอมีอาการผิดปกติทางจิต หรือมีปัญหาทางจิตใจใด ๆ หรือไม่ ก่อนจะหาผู้ที่ขู่จะแบล็กเมลเธอมาลงโทษต่อไป
 
            สำหรับคลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นคลิปที่เธอทำขึ้นเอง เพื่อระบายความในใจทั้งหมดและบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดชึ้น เป็นภาพขาว-ดำ โดยอแมนด้ายืนอยู่หน้ากล้องที่ไม่ให้เห็นหน้าชัด พร้อมกระดาษหลายแผ่นที่เธอค่อย ๆ โชว์มันแผ่นแล้วแผ่นเล่า ซึ่งแต่ละแผ่นมีข้อความที่นำมาปะติดปะต่อกัน โดยจับใจความได้ดังนี้
 
            "ฉันตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องราวจุดจบของชีวิตฉัน ฉันเล่นเว็บแคม และมักจะมีคนมาบอกฉันว่า ฉันสวย น่ารัก เพอร์เฟคท์ทุกอย่าง และต้องการให้ฉันเปลือยอก ซึ่งฉันก็ทำ... ต่อมา ฉันได้รับข้อความจากผู้ชายในเฟซบุ๊กคนหนึ่งซึ่งฉันเองไม่รู้จักเขาเลย เขาบอกให้ฉันโชว์ทางเว็บแคม ถ้าไม่ทำ เขาจะส่งภาพเปลือยอกของฉันไปทั่วโรงเรียน เขารู้ข้อมูลของฉันทุกอย่าง จนวันหนึ่ง ตำรวจมาที่บ้านบอกฉันพร้อมภาพฉาวที่เขาปล่อยออกมา วินาทีนั้นฉันอึ้งและทำอะไรไม่ถูก ฉันรู้สึกกังวล หวาดกลัวและซึมเศร้า ฉันเริ่มหันไปพึ่งเหล้า ยา ซึ่งมันทำให้ชีวิตฉันแย่ลง .."
 
            "... แต่ผู้ชายคนนั้นก็ยังไม่หยุด เขาสร้างเพจเฟซบุ๊คประจาน ฉันรู้สึกอับอายมาก นอนร้องไห้ทุกคืน เพื่อน ๆ ไม่คบฉัน ทุกคนเกลียดฉัน ฉันถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ฉันทำอะไรที่สิ้นคิด ฉันกรีดตัวเอง ฉันทนไม่ไหวจนต้องย้ายโรงเรียน ฉันรู้สึกดีขึ้นถึงแม้เวลาพักเที่ยงต้องนั่งคนเดียวในห้องสมุดก็ตาม 1 เดือนผ่านไป ฉันได้พูดคุยกับเพื่อนชายคนหนึ่ง เราคุยกันมาเรื่อย ๆ จนวันหนึ่ง เขาบอกว่าชอบฉัน แต่เขามีแฟนแล้ว แต่สุดท้ายเราก็มีอะไรกัน ผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์ แฟนของเขา รวมทั้งตัวเขา และเพื่อนอีก 15 คนก็มาตบ ด่าประจานฉันต่อหน้าเพื่อนใหม่ในโรงเรียนใหม่ แต่ฉันก็ยังรักเขา พยายามปกป้องเขา เพราะคิดว่าเขารักฉัน แต่ความจริงแล้วเขาต้องการแค่อยากมีเซ็กส์กับฉัน..."
 
            "...ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันอยากตาย ฉันจึงกินยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตาย มันร้อนข้างในไปหมด ฉันคิดว่าคงได้ตายสมใจ แต่ฉันก็ถูกพาส่งโรงพยาบาลได้ทัน จึงรอดมาได้ แต่กลับมาก็เหมือนตายทั้งเป็น  เรื่องฆ่าตัวตายดันกลายเป็นประเด็นให้คนอื่นด่าอีก ประมาณว่า "สมควรตายแล้ว, ตายซะดีกว่าอยู่, ทำไมไม่ตาย ๆ ไปซะ" ฉันมานั่งคิดทุกวันว่า ทำไมฉันต้องมีชีวิตอยู่ในเมื่อชีวิตมันเลวร้ายขนาดนี้ สุดท้ายแล้ว ฉันจึงเลือกที่จะจากไป เพราะฉันไม่เหลือใคร ถึงแม้ฉันจะต้องการใครซักคนก็ตาม.."


ที่มา กระปุกดอทคอม 

วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

น่ายกย่อง! แท็กซี่ เสี่ยงตายช่วย นศ.หมดสติคารถยนต์ที่ไฟไหม้



น่ายกย่อง! แท็กซี่พลเมืองดี โดดเสี่ยงตายช่วย นักศึกษาสาวขับรถประสบอุบัติเหตุ จนหมดสติ ขณะที่ไฟไหม้รถลุกท่วมทั้งคัน

            วานนี้ (12 ตุลาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวัฒน์ พึ่งสังวาลย์ อายุ 46 ปี ชาวสมุทรปราการ โชเฟอร์แท็กซี่ ทะเบียน ทพ 7167 กทม. เดินทางไปรับรางวัลพลเมืองดีเด่น ที่สถานีภูธรพระประแดง ซึ่งได้จัดขึ้นในงานวันตำรวจ จ.สมุทรปราการ

            ทั้งนี้ โชเฟอร์แท็กซี่คนดังกล่าว ได้เข้าช่วยเหลือ นางสาวไอศวรรย์ เจนจงประเสริฐ อายุ 21 ปี ที่เกิดอุบัติเหตุรถชนบนสะพานภูมิพล 1 เมื่อกลางดึกของวันที่ 9 ตุลาคม ที่่ผ่านมา แล้วไฟลุกท่วมรถยนต์ทั้ง 2 คัน จนคนขับรถโตโยต้าอีกคันนึงถูกไฟคลอกเสียชีวิต ส่วนนางสาวไอศวรรย์ที่ขับรถเบนซ์นั้น อยู่ในอาการหมดสติขณะที่รถกำลังถูกไฟไหม้ แต่โชคดีที่นายณัฐวัฒน์ขับรถผ่านมา และวิ่งเข้าไปช่วยเหลือจนนางสาวไอศวรรย์รอดตายอย่างหวุดหวิด ทั้งนี้ นายณัฐวัฒน์ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า นาทีนั้นตนคิดแค่เพียงว่าจะต้องช่วยคนให้รอดชีวิตให้ได้

             ขณะที่ นางสาวไอศวรรย์ ตอนนี้ก็ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ โดยแขนและขาทั้ง 2 ข้างหัก ใบหน้ากระดูกคิ้วข้างซ้ายแตก เปลือกตาไม่สามารถหลับลงได้ อีกทั้งบริเวณลำตัวด้านซ้ายยังถูกไฟคลอก แต่ถึงเธอจะเจ็บหนักสาหัส และต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกหลายเดือน เธอก็ไม่รู้สึกเสียใจที่เจ็บขนาดนี้ เพราะเธอยังรอดจากความตาย ด้วยการช่วยเหลือจากโชเฟอร์แท็กซี่พลเมืองดีคนนั้น อย่างไรก็ตาม เธอต้องขอขอบคุณนายณัฐวัฒน์เป็นอย่างมาก ที่ช่วยเหลือเธอออกมา

            ทั้งนี้ นอกจากกรณีของนายณัฐวัฒน์แล้ว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะมีการมอบโล่เชิดชูเกียรติให้กับแท็กซี่หญิงนางสาวนลินี ท้าวเทพ ด้วยเช่นกัน หลังจากเธอช่วยเหลือนักเรียนชั้น ป.4 ให้รอดพ้นจากคนร้ายที่จะฉุดไปทำร้าย เมื่อเดือนมิถุนายนที่่ผ่านมา

ที่มา กระปุกดอทคอม